เปิดคำสอน แป๊ะโรงสี อยากรวยต้องอ่านไว้เลย

เปิดคำสอน แป๊ะโรงสี อยากรวยต้องอ่านไว้เลย

เซียนแป๊ะโรงสี หรือ อาจารย์โง้วกิมโคย เดิมทีชื่อกิมเคย แซ่โง้ว เป็นชาวจีนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อประมาณอายุ 22 ปี ได้สมรสกับนาง นวลศรี เอี่ยมเข่ง มีบุตรด้วยกัน 10 คน อาแปะประกอบอาชีพค้าขายข้าว

เปลือก และได้ตั้งโรงสีชื่อว่า โรงสีไฟทองศิริ ที่ปากคลองเชียงรากเยื้อง กับวัดศาลเจ้าและได้โอนสัญชาติจากจีนเป็นไทย รวมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทอง

ศิริ กิจการโรงสีของอาแปะมั่นคงมากขึ้น ทำให้เป็นที่รู้จักกันในนามว่า “แปะกิมเคย”

ท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้เป็นที่เคารพของคนทั่วไปโดยเฉพาะในกลุ่มของพ่อค้าแม่ค้าและเป็นที่เล่าต่อกันมาว่าแป๊ะโรงสีนั้นมีองค์ของพ่อปู่ศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าอีกด้วย โดยในงานประจำปีท่าน

จะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลมฝนซึ่งฝนก็จะไม่ตกและท้องฟ้าก็ดูแจ่มใสอีกเช่นกัน อาแปะได้ทำการบูรณะศาลเจ้าในຢามที่การคมนาคมลำบากแต่ท่านก็ไม่ละความ

พຢาຢามจนทำสำเร็จ นอกจากการบูรณะศาลเจ้าแล้วเซียนแปะโรงสียังเป็นผู้

กำหนดวันจัดงานประจำปีของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าเป็นวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1 ถึงวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 1 รวม 4 วัน 4 คืน ซึ่งทางชาวจีนเรียกช่วงนี้ว่า “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป้ย”และได้ถือเป็นประเพณีตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

วันนี้มีบทความดีสำหรับคนที่อຢากเป็นเศรษฐี เป็นคำสอนของแปะโรงสี ท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้เป็นที่เคารพของคนทั่วไปโดยเฉพาะในกลุ่มของพ่อค้าแม่ค้าอีกทั้งท่านเก่งเ รื่ อ งดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย

ต่าง ในการตั้งบริษัทหรือบ้านโดยคนที่ให้ท่านชี้แนะกลับไปต่างก็ประสบความ

สำเร็จกันถ้วนหน้า บรรดาผู้คนทั้งจากในไทยและต่างประเทศต่างพากันมาหา

ท่านเพื่อขอคำชี้แนะเ รื่ อ งทำเลที่ตั้ง ฮวงจุ้ยของบริษัทห้าง วันนี้จะนำบทความดีฝากไว้ให้คิดของแปะกิมเคยมาฝาก มีบทความว่า

ลื้ออย่ามองข้ามคนที่ด้อยกว่าเพราะหลงตัวเองว่ายิ่งใหญ่กว่าอย่ามองข้ามผู้ค้ารายเล็กไม่เห็นคุณค่าของพวกเขา เพราะสักวันหนึ่งเขาอาจเป็นผู้ค้ารายใหญ่ของเราก็เป็นได้ พวกดูถูกคนพวกนี้มีเยอะแยะให้เห็นในโลกใบนี้จงจำไว้คนมีเ งิ นนั้นหลายคนไม่ได้มีมาแต่กำเนิดทุกคน

ลื้ออย่ามัวคิดว่าเรายังไหวไม่มีวันไม่สบายเพราะอายุยังน้อยทำงานหามรุ่งหาม

ค่ำยังไงก็ยังไหว แต่ถ้าไม่สบายเมื่อไรกำไรมาก ไหนก็ไม่คุ้มค่า ลื้ออย่ามัวคิดว่าฉันมีเ งิ น ช้เ งิ นได้อย่างฟุ่มเฟือยสักวันเ งิ นเพียงร้อยบาทอาจมีค่ามากมายในวันที่ไม่มีก็ได้

ลื้ออย่าคิดว่าบินสูงแล้วจะไม่มีวันร่วงลงมาแม้แต่นกที่บินได้สูงที่สุดในโลกก็ยังต้องลงมาแตะพื้นเพื่อนอนหลับพักผ่อน

ลื้อเคยอ่ า นนิทานเ รื่ อ งขอนไม้กับทองคำมั้ย ขอนไม้แทบไม่มีค่าอะไรเลยถ้าเทียบกับทองคำแต่ในเวลาที่ลื้อตะเกียกตะกายเพราะกำลังจะหายไปน้ำ ลื้อ

ต้องการขอนไม้มากกว่าทองคำผู้ค้าก็เช่นกัน ผู้ค้าบางคนเป็นรายเล็กรายน้อย

ซื้อของทีละชิ้นสองชิ้น หากวันหนึ่งผู้ค้ารายใหญ่ไม่ไหวเหลือแต่ผู้ค้ารายเล็กรายน้อย ผู้ค้ารายเล็กรายน้อยที่ซื้อขายกันประจำนี่แหละลื้อจะต้องการและนึกถึงเขาเป็นคนแรก

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า