ข้องใ จไทยได้วัคซีนช้า โทรหาผู้ผลิตทีเดียวรู้เรื่อง
ข้องใ จไทยได้ วัคซีนไ ฟเซอร์ วัคซีนโมเดอร์นา ช้า โทร. หาผู้ผลิตทีเดียวรู้เรื่อง
จากกรณีที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลมีการเจรจาเรื่องวัคซีนไ ฟเซอร์ และมีการลงนามในสัญญาจองซื้อวัคซีนโควิ ด 20 ล้านโดสเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะได้รับวัคซีนปลายปี 2564 ขณะที่วัคซีนโมเดอร์นา ทางองค์การเภสัชกร รมก็กำลังเดินเรื่องอยู่ ส่วนทางโรงพย าบาลเอกชน ก็มีการเปิดให้จ่ายเงินค่าวัคซีนแล้ว
ล่าสุด วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นพ.บุญ วนาสิน จาก บริษัทธนบุรี เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป จำกัด เผยว่า นับตั้งแต่การระบา ดของโควิ ด ทางโรงพย าบาลและเครือโรงพย าบาลธนบุรี ต่างวางแผนกันตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ว่าจะมีการซื้อวัคซีน 4-5 ชนิด ประมาณ 50 ล้านโดส แต่รัฐบาลบอกว่า โรงพย าบาลเอกชนสั่งเองไ ม่ได้ เพราะเป็นการใช้ฉุกเฉิ น ต้องซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ และห้ ามซื้อวัคซีน 5 ชนิดที่รัฐบาลสั่งซื้อ จึงเหลือแค่วัคซีนที่เอกชนซื้อได้คือ ไ ฟ เซอร์ โมเดอร์นา โนวาแว็กซ์ แต่ทั้งหมดต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกร รม
เมื่อสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิต พบว่า หากเซ็นสัญญาแล้ว ต้องใช้เวลาอีก 4 เดือนถึงสามารถส่งวัคซีนได้ เช่น สมมุติเซ็นสัญญาเดือนกรกฎาคม กว่าจะได้วัคซีนคือตุลาคม ซึ่งถ้าไ ม่ติดเงื่อนไขใด ๆ ทางโรงพย าบาลธนบุรีพร้อมสั่งซื้อทั้งไ ฟเซอร์และโมเดอร์นา 50 ล้านโดส ตั้งแต่ตุลาคม 2563 ถึงจะได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่เนื่องจากติดที่การดำเนินการของภาครัฐ ทำให้ทางโรงพย าบาลเอกชน ต้องรอวัคซีนจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในเดือนเมษายน 2564 มีการยืนยันจากทั่วโลกว่า วัคซีน mRNA (ไ ฟเซอร์-โมเดอร์นา) คือวัคซีนที่ดีที่สุด และมีผลการทดลองออกมาแล้ว ทั้งป้องกันการติด ไ ม่ใช่แค่ป้องกันการเสี ยชีวิตหรือป่ วยหนักเท่านั้น และป้องกันได้หลากหลายสาย พัน ธุ์
นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ว่า คนที่ฉี ดทั้งวัคซีนเชื้ อเป็น (แอสตร้าเซนเนก้า) และวัคซีนเ ชื้อต าย (ซิโนแวค) อาจต้องฉี ดวัคซีนถึง 3 เข็มเพื่อกระตุ้ นภูมิคุ้มกัน แต่คนที่ฉี ดวัคซีน mRNA มีแนวโน้มฉี ดเพียง 2 เข็มเท่านั้น
จากนั้น นพ.บุญ ยังเผยต่อว่า เรื่องนี้ทำให้สงสัยว่า ทำไมไทยได้วัคซีนช้า ทั้งที่ประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ได้ไปแล้ว 3 รอบ รวม 40 ล้านโดส มีแค่ประเทศไทยที่ยังไ ม่มีวัคซีนแบบ mRNA แม้แต่โดสเดียว ตนจึงตรวจสอบความคืบหน้าของดีลวัคซีนไปทางผู้ผลิตไ ฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งสนิทเป็นการส่วนตัวกับโรงพย าบาลเอกชนในไทยอยู่แล้ว พบว่า ไทยยังไ ม่ยอมเซ็นสัญญาในการซื้อขาย
“ณ ขณะนี้ ยังไ ม่เซ็นเลย ทั้งไ ฟเซอร์ โมเดอร์นา เราก็เอ๊ะทำไมนานนัก เราก็ยินดีที่จะเอ าเงินไปวางไว้ให้ เพื่อไ ม่ให้เภสัชกังวลว่าไ ม่มีเงินจ่ายให้ แต่องค์การเภสัชบอกว่า ยังเ อาเงินมาไ ม่ได้ และองค์การเภสัชเพิ่งจะส่งจดหมายให้เรายืนยันว่า จะซื้อคนละเท่าไร ซึ่งเรายืนยันไปตั้งแต่เมษาว่า เราซื้อหมด 5 ล้านโดส ยินดีเอ า 15,000 ล้านมาวางไว้ให้ และถ้าเอกชนรายไหนจะซื้อ เรายินดีแบ่งให้ แต่เราต้องการให้องค์การเภสัช ไปเซ็นสัญญาก่อน อันนี้คือจุดที่สำคัญที่สุด เหมือนไ ฟเซอร์ป่านนี้ยังไ ม่เซ็น ประเทศไทยยังไ ม่ได้เลยสักโดส” นพ.บุญ กล่าว
ในขณะเดียวกัน พ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และบอร์ดองค์การเภสัชฯ เผยว่า ขั้นตอนการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นานั้น ยังอยู่ในขั้นตอนของการร่างสัญญาให้เป็นไปตามกฎหมายของไทยและต่างประเทศ ยืนยันว่าไ ม่มีปัญหา จัดหาเป็นไปตามขั้นตอน สอดคล้องกับที่ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์. ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกร รม กล่าวว่า กำลังรอบริษัทซิลลิค ฟาร์มา และบริษัทเอกชน ยืนยันการจองวัคซีนอย่างเป็นทางการมาให้ในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะได้รับวัคซีนช่วงแรก 3.9 ล้านโดส และปีหน้า 1.1 ล้านโดส
ไทยตรวจเชิงรุกน้อยมาก – เอกชนไปกู้เงินมาจ่ายก่อน แต่ล่าช้า ดอกเบี้ ยบาน
ขณะเดียวกัน ทางโรงพย าบาลเอกชน มองว่า ไทยตรวจเชิงรุกน้อยมาก ตรวจเพียงร้อยละ 5 ซึ่งตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ควรตรวจอย่างน้อยร้อยละ 15 อย่างต่างประเทศเช่น จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ตรวจเชิงรุกมากกว่าร้อยละ 30-40
นอกจากนี้ นพ.บุญ ยอมรับว่า เครือโรงพย าบาลธนบุรี กู้เงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทเพื่อซื้อวัคซีนผ่านองค์การเภสัชก รรม แต่ความล่าช้าของรัฐบาล เอกชนต้องเสี ยดอกเบี้ ยช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น ราคาวัคซีนโมเดอร์นาที่เหมาะสมคือ โดสละ 1,700 บาท โดยในตอนนี้โรงพย าบาลในเครือจองวัคซีนแล้วกว่า 5 ล้านโดส
สุดท้าย ตนอยากฟังความชัดเจนของทางรัฐบาลว่า ทำไมการสั่งวัคซีน mRNA ถึงได้ช้า ทำไมขณะนี้ยังไม่ได้วัคซีน ทั้งที่มีผลยืนยันว่า วัคซีนประเภทนี้ได้ผลดีที่สุดและผลข้างเคียงน้อยสุด ส่วนซิโนแวค หลายประเทศที่ฉี ดก็มีการติดเชื้ อที่ยังเยอะอยู่
ในมุมมองโรงพย าบาลเอกชน มองว่า การระบา ดที่ผ่านมารัฐบาลประมา ทเกินไป ทั้งที่นักวิชาการเตือ นแล้วว่า โควิ ด กลายพั นธุ์เร็วมาก รัฐบาลกลับรอวัคซีนชนิดเดียวคือ แอสตร้าเซนเนก้า แต่เมื่อแอสตร้าเซนเนก้าผลิตไม่ทัน ก็เลือกซิโนแวคมาแทน ต้องยอมรับว่า คุณภาพสู้วัคซีน mRNA ไ ม่ได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้