งานวิจั ยใหม่เผ ย สาเห ตุที่ทำให้โควิ ดกลายพัน ธุ์
ใครที่ป่ วยด้วยภาวะนี้ เป็นหนึ่งในสาเห ตุทำโควิ ดกลายพัน ธุ์
“โควิ ด” ดูเหมือนจะไม่จบง่าย ๆ ถึงแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการ แต่กลับพบว่า มีการกลายพั นธุ์ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งปัจจุบัน มีการกลายพั นธุ์ไปแล้วหลายร้อยหลายพันรูปแบบ
บางสายพั นธุ์แ พร่กระจายง่ายแต่ไม่รุนแร ง แต่บางสายพัน ธุ์แพ ร่กระจายยาก แต่มีความรุนแ รงสูง ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ ที่นักวิทย าศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ยังคงตามหาคำตอบ ว่าทำไมโควิ ดกลายพั นธุ์ได้มากขนาดนี้
ล่าสุด งานวิจัยใหม่จากมหาวิทย าลัยเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล พบว่า ผู้ป่ว ยที่มีระบบ “ภูมิคุ้มกันบกพร่อง” มีความเสี่ย งต่อการติดเชื้ อโควิ ดเ รื้อรัง และทำให้เ ชื้อพัฒนาจนเกิดการกลายพั นธุ์
ศ.อาดี สเติร์น ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิวัฒนาการของไวรั สจากมหาวิทย าลัยเทลอาวีฟ หัวหน้าทีมวิจัย อธิบายว่า ในช่วงปีแรกของการระบา ดใหญ่ของโควิ ด ไวรั สมีอัตราการกลายพัน ธุ์ที่ค่อนข้างช้า แต่คงที่
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่สิ้นปี 2020 โลกได้เห็นการเกิดขึ้นของ โควิ ดกลายพั นธุ์จำนวนมาก เกินกว่าอัตราที่พบในปีแรก
การวิจัยนี้ ศึกษาผู้ป่ว ย โควิ ดเ รื้อรัง ที่ศูนย์การแพทย์เทลอาวีฟโซราสกี พบว่า ในผู้ป่ว ยโควิ ดที่ “ภูมิคุ้มกันบกพร่อง” ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ทำให้การฟื้นตัว และ “หายขาด” จากโร คจะช้า และยากกว่าผู้ที่ภูมิคุ้มกันปกติ
ทำให้การตอบสนองของแอนติบอดีที่ลดลง โดยเฉพาะในทางเดินหายใจส่วนล่างของผู้ป่ว ยโควิ ด เรื้ อรังเหล่านี้ ทำให้ฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ และผลักดันให้ไวรั สเกิดการกลายพั นธุ์ได้ในระหว่างการติดเชื้ อที่ยาวนาน
ศ.สเติร์น อธิบายว่า ในทุกกลุ่มประชากร จะมีผู้ป่ว ยที่ติดเชื้ อโควิ ดเรื้ อรัง
ในกรณีของผู้ป่ว ยเหล่านี้ ไวรั สจะยังคงอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน และมีความเสี่ ยงสูงที่จะติดเชื้ อซ้ำ ผู้ป่ วยเหล่านี้ส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกับบกพร่อง ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาได้รับความเสียหาย และไม่สามารถทำงานได้
ซึ่งในแง่องค์ความรู้ด้านการวิวัฒนาการทางชีววิทย า ผู้ป่ว ยเหล่านี้ถือเป็น “แหล่งบ่มเพาะ” สำหรับไวรั ส และการกลายพั นธุ์เพราะไวรั สจะยังคงอยู่ในร่างกายของพวกเขาเป็นเวลานาน และประสบความสำเร็จในการปรับตัวให้เข้ากับระบบภูมิคุ้มกัน จนเกิดการกลายพั นธุ์ต่าง ๆ
ศ.สเติร์น คาดว่า ในผู้ป่ว ยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไวรั สโควิ ดมีการซ่อนตัวในป อด เพื่อพย าย ามกลายพั นธุ์ เมื่อสำเร็จ ก็จะย้อนกลับไปยังทางเดินหายใจส่วนบน เพื่อแ พร่กระจายจากผู้ป่ วยไปยังคนอื่นต่อไป
จากงานวิจัย ยังพบข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การกลายพั นธุ์ของเชื้ อ ที่พบในผู้ที่ป่ วยโควิ ดเ รื้อรังนั้น มีการกลายพั นธุ์บางจุดที่เหมือนกับสายพั นธุ์ที่น่ากังวล (VOC) เช่น อัลฟา หรือเดลตา หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลายพัน ธุ์ที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการหลบเลี่ยงแอนติบอดี
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยใหม่ระบุว่า แม้สายพั นธุ์ที่แ พร่กระจายอย่างรวดเร็วยังหาได้ยากในบรรดาโควิ ด สายพัน ธุ์ที่เกิดจากผู้ป่ว ยภูมิคุ้มกันบกพร่อง แต่โอกาสในการระบา ดอาจเพิ่มขึ้น หากอัตราการติดเชื้ อทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การศึกษาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งมีความเสี่ ยงสูงต่อไวรั สโควิ ดที่อาจกลายเป็นแหล่งบ่มเพาะสำหรับการก่อตัวของสายพั นธุ์ถัดไป