อาหารเพื่อสุขภาพ ของดีที่กินมากไปที่ต้องระวั ง
น้ำเต้ าหู้ หรือน มถั่วเหลือง เป็นเครื่องดื่มเมนูโปรดของใครหลายคน ซึ่งนอกจากจะอร่อยแล้ว มีสา รอาหารในถั่วเหลืองยังที่ให้ประโยชน์หลายประการแก่ผู้บริโภค เป็นทั้งแหล่งโปรตี น วิตามินเอ แคลเซียม
แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อควรระวั งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบริโภคน้ำเต้ าหู้เป็นพิเศษเช่นกันมากกว่าปกติ
ข้อมูลโภชนาการของน้ำเต้ าหู้
น้ำเต้ าหู้ 1 แก้ว ไม่มีรสหวาน ให้พลังงานประมาณ 80-100 แคลอรี่ มีคุณค่าทางสา รอาหาร ดังนี้
คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม
ไขมัน 4 กรัม
โปรตี น 7 กรัม
น้ำเต้ าหู้เป็นแหล่งโปรตี น วิตามินเอ วิตามินบี 12 โพแทสเซียม และไอโซฟลาโวน (Isoflavone) มากไปกว่านั้นยังอุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินดี และเพราะน้ำเ ต้าหู้ทำมาจากธรรมชาติ จึงไม่มีคอเลสเตอรอลและมีไขมันอิ่มตัวต่ำ รวมถึงไม่มีแลคโตส
ปริมาณน้ำเต้ าหู้ที่ควรบริโภคในแต่ละวัน
โดยปกติแล้วอาหารจากถั่วเหลืองนั้นแปรรูปไปเป็นเมนูอื่น ๆ เช่น เต้ าหู้ เต้ าเจี้ยว เป็นต้น ในหนึ่งวันอาจรับประทานเมนูจากถั่วเหลืองมากกว่าแค่การดื่มน้ำเต้ าหู้
จากสถาบันวิจัยมะเ ร็งสหรัฐอเมริกา American Institute for Cancer Research (AICR) แนะนำว่า เฉลี่ยแล้วสามารถดื่มน้ำเต้ า หู้ได้ประมาณวันละ 2 แก้ว ดังนั้น หากในหนึ่งวัน รับประทานเมนูผัดเต้ าหู้ไปแล้ว อาจดื่มน้ำเต้ าหู้ได้ 1 แก้ว แต่หากดื่มมากกว่านั้นเป็น 2 แก้วก็ยังถือว่าไม่ได้บริโภคน้ำเ ต้าหู้มากเกินไป ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ประโยชน์ของน้ำเ ต้าหู้
1.อาจช่วยลดความเสี่ ยงในการเป็นมะเร็ งเ ต้าน ม
การกินอาหารที่มีถั่วเหลืองมีแนวโน้มว่าจะช่วยลดความเสี่ย งในการเป็นมะเร็ งเต้ าน มในผู้หญิงบางคน เนื่องจากผู้หญิงเอเชียผู้ที่กินอาหารที่มีถั่วเหลืองมากดูเหมือนว่าจะมีความเสี่ย งในการเป็นมะเร็ งเต้ าน มน้อยกว่า ผู้หญิงที่กินถั่วเหลืองน้อย
แต่อย่างไรก็ตามผลของการบริโภคถั่วเหลืองกับความเสี่ย งในการเป็นมะเร็ งเต้ าน มดูเหมือนว่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น เช่น อายุ และภาวะหมดประจำเดือน
โดยผู้หญิงที่กินถั่วเหลืองมากในช่วงวัยรุ่น มีแนวโน้มว่าจะลดความเสี่ ยงในการเป็นมะเ ร็ง เพราะเ ชื่อกันว่าการกินดื่มน้ำเ ต้าหู้หรือกินอาหารที่อุดมไปด้วยถั่วเหลืองจะช่วยลดความเสี่ ยงในการเป็นมะเร็ งเต้ าน ม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่ อถือที่ยืนยันได้ว่า การกินอาหารเสริมไอโซฟลาโวนที่สกั ดจากถั่วเหลืองนั้น มีส่วนช่วยในการลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ งเต้ า น ม
2.เหมาะกับผู้ที่แพ้แลคโตสในน ม
น้ำเต้ าหู้เป็นแหล่งโปรตี นชั้นดี และยังมีแคลเซียมด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่แพ้แลคโตสในน มและต้องการโปรตี นและแคลเซียมจากนมถั่วเหลืองแทนน มวัว
3.ช่วยลดคอเลสเตอรอล
สถาบัน National Institute of Health and Nutrition ในประเทศญี่ปุ่นได้ให้ข้อมูลว่า โปรตี นในน้ำเต้ าหู้สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือ ดได้ ซึ่งการที่คอเลสเตอรอลในเลื อดลดลงส่งผลให้ลดความเ สี่ยงในการเป็นโ รคหัวใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ดังนั้นผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูงอาจเปลี่ยนมากินดื่มน้ำเต้ า หู้แทน
4.น้ำเต้ าหู้กับผู้ที่เป็นโร คเบ าหวาน
การกินอาหารที่มีโปรตี นจากถั่วเหลืองและไฟเบอร์ถั่วเหลือง เช่น น้ำเ ต้าหู้ เต้ าเจี้ยว ห รือถั่วเหลืองหมัก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเ ลือดในผู้ที่เป็นโร คเบ าหวานได้
แต่ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโร คเบ าหวานควรระวั งปริมาณน้ำตาลในน้ำเต้ าหู้ ควรกินดื่มน้ำเต้ าหู้ชนิดแบบไม่ใส่น้ำตาลหรือน้ำตาลน้อย
5.เหมาะกับผู้ที่อาจช่วยลดความดันโลหิตสูง
การกินโปรตี นจากถั่วเหลืองช่วยลดค่าความดันโลหิต (Systolic blood pressure) โดยสามารถอาจลดความดันโลหิตสูงได้ประมาณ 4-8 มิลลิเมตรปรอท (mmHG) ส่วนค่าความดันโลหิตที่เป็นตัวเลขด้านล่าง (Diastolic blood pressure) อาจลดลงประมาณ 3-5 มิลลิเมตรปรอท (mmHG) ในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงเล็กน้อย ดังนั้นการกินดื่มน้ำเต้ าหู้จึงอาจช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูง
6.อาจช่วยป้องกันโร คกระดู กพรุน
โปรตี นจากถั่วเหลือง หรือส ารสกัดถั่วเหลืองช่วยเพิ่มความหนาแน่นมวลกระดู ก (BMD, bone mineral density) หรือช่วยชะลอการสูญเสียความหนาแน่นมวลกระดู กในผู้หญิงที่ใกล้หมดประจำเดือน โดยควรกินอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลืองเพื่อให้ได้รับไอโซฟลาโวนอย่างน้อย 75 มิลลิกรัมต่อวัน ส่งผลดีต่อกระดู กในร่างกาย
แต่อย่างไรก็ตาม การกินดื่มน้ำเต้ าหู้ หรือการกินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองดูเหมือนว่าจะไม่ส่งผลต่อความหนาแน่นมวลกระดู กในผู้หญิงที่อายุน้อย
ข้อควรระวั งเกี่ยวกับ น้ำเต้ าหู้
การดื่มน้ำเ ต้าหู้มีข้อควรระวั งเช่นเดียวกับการบริโภคอาหารชนิดอื่น และอาจมีกลุ่มบุคคลที่อาจต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเต้ าหู้เนื่องจากอาจส่งกระทบต่อปัญหาสุขภาพ
-ผู้ที่เป็นโร คมะเร็ งเ ต้าน ม ผลจากการกินถั่วเหลืองในผู้ที่เป็นโร คมะเ ร็งเต้ าน มยังไม่ชัดเจน หลายคนเชื่ อว่าถั่วเหลืองอาจกระตุ้ นอาการมะเร็ งเต้ าน ม เนื่องจากถั่วเหลืองมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
แต่อย่างไรก็ตามก็มีงานวิจัยที่พบว่าน้ำเต้ าหู้อาจช่วยป้องกันโร คมะเร็ งเต้ าน มได้ ดังนั้น จึงยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีข้อมูลมากพอที่จะระบุผลของการกินถั่วเหลืองกับโร คมะเร็ งเต้ าน ม จึงแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์เมื่อต้องการกินอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลือง หรืออาหารเสริมจากถั่วเหลืองในกรณีที่เป็นมะเ ร็งเต้ าน ม
-ผู้ที่เป็นโร คเบ าหวาน ถั่วเหลืองอาจเพิ่มความเสี่ ยงของภาวะระดับน้ำตาลในเลือ ดต่ำ ในผู้ที่เป็นเบาหวานที่กำลังกินย าควบคุมระดับน้ำตาลในเลื อด
-ผู้ที่เคยเป็นนิ่ ว ในไ ต ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่วเหลืองอาจเพิ่มความเสี่ ยงในการเป็นโ รคนิ่วในไ ต เนื่องจากมีส าร ออกซาเลต (oxalate) มาก ซึ่งสา รออกซาเลตเป็นสาเห ตุของการเกิดนิ่ วในไ ต
นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโร คไ ตไม่ควรกินถั่วเหลืองเพราะอาจเกิดอันตรา ยได้ หากคุณมีประวัติเป็นโ รคนิ่ วในไ ตควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลือง
– ผู้ที่แพ้น ม เด็ กที่แพ้น มวัวอาจแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่วเหลือง
-ทารก น้ำเต้ าหู้ไม่อาจใช้แทนน มแม่หรือน มผงได้ ไม่ควรให้ทารกดื่มน้ำเ ต้าหู้โดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรก เนื่องจากระบบย่อ ยอาหารของทารกยังไม่สามารถย่ อยได้ดีนัก
โดยปกติแล้วถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง จัดว่าเป็นอาหารที่มีคนแพ้มากที่สุดชนิดหนึ่ง ดังนั้น ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารจำพวกถั่วอาจต้องระมั ดระวั งและสังเกตตัวเองหากต้องการบริโภคน้ำเต้ าหู้ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ในหญิงตั้งครรภ์อาจต้องระวั งการบริโภคน้ำเ ต้าหู้ปริมาณสูงเพราะหากบริโภคมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ อาจจำกัดปริมาณการดื่มในแต่ละวัน
แหล่งที่มา
SOY
All About Soy Milk: Nutrition, Benefits, Risks, and How It Compares With Other Milks.
everydayhealth
7 Proven Health Benefits Of Soy Milk.
Is Soy Milk Bad for You?.