ยิ้มรับฉาย า เสี่ ยสวนทุเรียน ไม่อายทำกิน
ชาคริต ยิ้มรับฉาย า เสี่ ยสวนทุเรียน ไม่อายทำกิน
คุ้นชินกับภาพการใช้ชีวิตอยู่ในสวนทุเรียนที่ จ.จันทบุรี เป็นหลัก จนหลายคนเข้าใจว่าพระเอกหนุ่มชื่อดัง ชาคริต แย้มนาม กรุยทางทำไร่ทำสวนเพื่อเตรียมตัวออกจากวงการบันเทิง
ล่าสุดได้เจอ หนุ่มชาคริต ในงานบวงสรวง CLUB FRIDAY THE SERIES 14 LOVE & BELIEF ที่ หน้าตึกแกรมมี่ เจ้าตัวตอบให้ฟังอย่างชัดเจน รวมถึงเรื่องที่หลายคนยกให้เป็น “เสี่ยสวนทุเรียน” พร้อมแจงภาพคฤหาสน์หลังโตที่ลือว่าเป็นของตนเองกับภรรย า
เห็นไปลุยทำสวนทุเรียน จนหลายคนสงสัยว่ายังรับละครอยู่ใช่ไหม?
“ยังรับอยู่เหมือนเดิมครับ ผมเก่งครับ แบ่งเวลาได้ สวนทุเรียนเราก็ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ก็พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ และหวังว่าจะดีขึ้นในทุกปี ทำไว้ให้ลูกแหละ มันเป็นความสุขด้วย มันเหมือนได้กลับบ้าน ได้ไปชาร์จพลัง ได้ทำอะไรทิ้งไว้ที่มันเป็นของเขาจริงๆ”
หลายคนยกให้เป็นเสี่ยสวนทุเรียนแล้ว?
“สาธุๆ แต่ยังไม่เป็นเสี่ยครับ มันมีอะไรให้เรียนรู้ใหม่ทุกวัน เจอกับปัญหา เจอกับภั ยธรรมชาติที่เราก็ต้องมาเรียนรู้กันใหม่ ว่าเพลี้ยมีกี่ชนิด รามีกี่ชนิด ดินฟ้าอากาศยังไง ปีนี้ก็มาเจออะไรแปลกๆ ต้องมาเรียนรู้กันใหม่อีกว่าจะต้องคอยกำจัดอะไรยังไงให้ไปในทิศทางเดียวกันว่าเราจะเป็นอินทรีย์หรือเ คมี”
เรียกว่าเป็นเกษตรกรเต็มตัว?
“ผมยังเรียกว่าเป็นมือใหม่อยู่ แต่ก็ทำเต็มที่ โชคดีที่มีครูที่ดีคือญาติๆ ฝั่งภรรย า (เห็นตัดขายกันทีได้เป็นตันๆ คันละ 3 แสน?) มันก็เป็นมาตรฐานอยู่แล้วครับว่า ถ้ากระบะคันหนึ่งที่มีเหล็กกั้นสูงจะได้ประมาณ 3 ตันถึง 3 ตันครึ่ง ราคาก็จะอยู่ราวๆ นั้น เราก็มีส่งทั้งในประเทศ ประเทศจีน และประเทศอื่นๆ อีกด้วย”
กลั วไหมว่าจะมีคู่แข่งมาแชร์ เพราะตอนนี้จีนเขาก็ปลูกได้เองแล้ว?
“เราก็ต้องเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเรา เชื่อมั่นในดินของเรา ในผลผลิตของเรา ผมว่ามันก็ต้องมีคนที่…บางทีเราอยากจะกินอะไรอย่างหนึ่ง เราก็อยากจะกินจากที่เป็นออริจินัลของเขามั้ย แต่เราก็เตรียมพร้อมแหละ ถ้าหากวันหนึ่งราคาเขาอาจจะมีขึ้นมีลง เอ าเป็นอยู่ได้ พอเพียง”
เส น่ห์ของทุเรียนไทยมันเป็นยังไง?
“มันคือผลไม้ของเรา เราก็กล้าพูดว่ามันเป็นผลไม้ของเรา มันมีความลึกซึ้งในการกิน มันมีความครีมมี่ในแต่ละสายพั นธุ์ อย่างผมเป็นคนที่ชอบพวงมณี พอได้กินพวงมณีแล้วรู้สึกเหมือนกินกาแฟใส่ครีมหอมๆ
(สวนทุเรียนถือเป็นรายได้หลักของครอบครัว?)
มันก็ไปด้วยกัน เขยจันท์ ภรรย าเป็นคนดูแล ผมก็ยังอยู่ในวงการบันเทิงตรงนี้ แล้วก็ยังมีธุรกิจร้านอาหาร ร้านขายแซลมอน ทุกอย่างเราก็ทำด้วยกัน
(ตอนนี้มีทั้งหมดกี่ไร่?) รวมๆ ก็ 100 กว่าไร่”
ล่าสุดมีข่าวว่าซื้อคฤหาสน์?
“ไม่ครับ ไม่รู้เขาเ อารูปที่ไหนมาแปะ บ้านเราก็ทำตรงที่เราอยู่นี่แหละ คือมีหลังที่แยกออกมาด้วยแต่ไม่รู้ว่าเรียกคฤหาสน์หรือเปล่า คือเราเรียกว่าบ้าน แต่ในรูปที่ลงนั่นไม่ใช่ เดี๋ยวเจ้าของบ้านเขาจะโกรธเอ า สำหรับบ้านก็ใกล้จะเสร็จแล้ว อีก 4-5 เดือน แต่เป็นบ้านที่กทม. มันเป็นบ้านในพื้นที่เราอยู่แล้ว เริ่มทำ เพราะมีลูกก็อยากจะขยับขย าย ตอนนี้ทุกคนคิดว่าผมไปอยู่จันทบุรีกันหมดแล้ว แต่จริงๆ ผมอยู่กทม.เป็นหลักครับ”
บ้านราคาสูงไหม?
“ก็ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็บานอยู่ แต่ก็ยังได้อยู่ (50 ล้าน?) ไม่รู้ เราอย่ าไปตีตัวเลขให้เขาเลย เราก็ทำเต็มที่เพราะเป็นคนชอบบ้าน ที่เราอยากมีพื้นที่ตรงนี้เพราะเราเป็นคนที่ใช้บ้านคุ้ม เราชอบความเขียว ความต้นไม้ ความปลูกผักในบ้าน”
พอทำธุรกิจเยอะๆ แล้วงานในวงการบันเทิงบริหารยังไง?
“มันยังเป็นความรักของผมที่มีต่องานศิลปะการแสดง มันคือสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร ในเรื่องของอาหารที่เราชอบจนกลายเป็นธุรกิจ ผมว่ามันไม่จำเป็นต้องทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มันไปด้วยกันได้อะไรก็ได้ที่เราแบ่งเวลาได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลา เรามีน้องๆ ผู้ช่วย มีหุ้นส่วนที่ดี มันก็สามารถจัดสรรไปได้”
คนอื่นอาจจะมองว่าการทำธุรกิจมันมีรายได้มากกว่าการเป็นนักแสดง?
“ไม่ มันเป็นความรัก มันเป็นแพสชั่น คนชอบมาถามว่าผมจะออกจากวงการแล้วเหรอ เพราะเห็นไปทำอะไรเยอะแยะ ไม่ออกครับ เต้นกินรำกินจนต า ยครับ เล่นจนเป็นพ่อเป็นปู่ครับ เพราะมันคือความสุข มันคือศิลปะที่เรารัก มันเป็นความสุขที่เราได้เติบโตมากับกองถ่าย ได้ขัดเกลาในเรื่องของศิลปะการแสดง มันคงจะอยู่กับเราไปตลอด ตราบใดที่ยังมีคนให้งาน ยังจ้างอยู่ ยังเ ชื่อมั่นในตัวเราอยู่ก็จะทำให้เต็มที่ครับ”
ปว ดข้อปว ดเข่าก็ไม่เกี่ยง?
“เรามองว่าเราเป็นนักแสดง เราไม่ได้หนุ่มอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว มันน่าจะสนุกกว่าที่เราสามารถเล่นอะไรได้หลากหลาย มีบทเข้ามาหลากหลายที่เขามั่นใจว่าเราน่าจะเล่นได้ แล้วส่งมาให้เราพิจารณาดู”