ข้อความจากหมอริทถึงโ ตโ น่ จุ กทุกบรรทัด
ข้อความจากหมอริทถึงโ ตโ น่
ยินดีด้วยกับการว่ายน้ำข้ามโข ง ของพี่โ ตโ น่ ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภั ย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก
อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจและความเ สียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเ สียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ
ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพย าบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเ หตุผลพวกนี้นะครับ (ไหนๆคนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว)
1. ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1000 ล้าน หมอ พย าบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ
ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่ว ยยังไง ก็มีการรักษารองรับ
(ซึ่งจริงๆดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเ สียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเห ล้ า ติดบุ ห รี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพย าบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม
ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะส มองไหล หมอๆ ก็ออกนอกระบบโรงพย าบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ
2. พี่บอกว่าหมอพย าบาลเสี่ย ง คำถามคือ แล้วใครปล่อยให้หมอพย าบาลทำงานภายใต้ความเ สี่ ยง?
ถ้ารู้ว่าเค้าทำงานแบบเสี่ ยงอยู่ ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ แล้วถ้างบไม่พอจริงๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค?
ส่วนตัวมองว่า การบริจาคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ที่มา หลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเห ตุไปในตัวด้วยครับ
ถ้าพี่สื่อส ารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเ หตุสมควรมากขึ้น