7 ปุ่มในรถ ห้ ามเผลอกดเด็ ด ข าด
7 ปุ่มในรถ ห้ ามเผลอกดเด็ ด ข าด
1.ปุ่มไฟตัดหมอก
หากเปิดไฟตัดหมอกหน้าทิ้งไว้อาจไม่เท่าไหร่ แต่ในเวลากลางคืนนั้น ไฟตัดหมอกหลังอาจทำให้ผู้ขับขี่รถตามมาเกิดอาการพร่ามัวได้เลย ดังนั้น จึงควรเปิดไฟตัดหมอกเฉพาะเวลาที่ฝนตกหนักหรือหมอกลงจัดเท่านั้น
2.ปุ่มเปิดไฟสูงค้าง
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นการเปิดไฟสูงค้างไว้ ซึ่งเป็นอันตร ายต่อผู้ร่วมทางเป็นอย่างมาก เพราะไฟสูงมีความเข้มของแสงสูงมาก อีกทั้งยังตั้งลำแสงให้พุ่ งไปข้างหน้าตรงๆ ถ้าเผลอเข้าตารถที่วิ่งสวนมาแล้วล่ะก็ จะทำให้คนขับตาพร่าไปชั่ วขณะเลยทีเดียว
3.ปุ่มเปิดกระโปรงหน้า
บ่อยครั้งที่เราพบเห็นบางคนเผยอกระโปรงหน้าทิ้งไว้ขณะขับขี่โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถือว่าเสี่ ยงอันตร ายกว่าที่คิดมาก เพราะหากขับรถด้วยความเร็วสูง ลมป ะท ะอาจทำให้ฝากระโปรงหน้าเปิดเองได้ เนื่องจากมีสลักยึดไว้อย่างหลวมๆ เพียงชั้นเดียวเท่านั้น รวมถึงยังเสี่ย งในกรณีที่จอดรถไว้ในที่เปลี่ยว เพราะอาจถูกขโมยอุปกรณ์ในห้องเครื่องอีกต่างหาก
4.ปุ่มปิดถุงลมนิรภั ย
รถยนต์บางรุ่นสามารถเลือกปิดถุงลมนิรภั ยฝั่งผู้โดยสา รได้ สำหรับการติดตั้งเบาะเด็กไว้ด้านหน้า ซึ่งหากเผลอไปปิดเข้าแล้วล่ะก็ จะทำให้ถุงลมนิรภั ยไม่ทำงานเมื่อเกิดอุบั ติเห ตุขึ้นมาจริงๆ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบดูให้ดี
5.ปุ่มปิดระบบควบคุมเสถียรภาพ
โดยปกติระบบควบคุมเสถียรภาพจะถูกเปิดไว้อัตโนมัติทุกครั้งที่มีการสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่แล้ว ซึ่งการใช้งานทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีการปิด แต่หากพลั้งเผลอไปปิดระบบเข้า ระบบควบคุมเสถียรภาพจะไม่ทำงานในกรณีที่มีการหลุดโค้ง
6.ปุ่มเปิดฝาถังน้ำมัน
หากเผลอเปิดฝาถังน้ำมันทิ้งไว้ อาจสบตาแก๊งโ จรที่ตระเวนขโมยน้ำมันจากรถยนต์-รถบรรทุกก็เป็นได้ แถมบางทีฝาถังน้ำมัน ยังสามารถถอดไปขายได้ราคาอีกต่างหาก
7.ปุ่มเปิดกระโปรงท้าย
การเปิดฝากระโปรงท้ายทิ้งไว้อาจไม่มีผลด้านความปลอดภั ยในการขับขี่เท่าใดนัก (เพราะรถส่วนใหญ่มักเผยอฝากระโปรงท้ายขึ้นนิดเดียวเมื่อกดปุ่มเปิด) แต่จะมีผลด้านความปลอดภั ยของทรัพย์สินภายในรถ เพราะนอกเหนือจากสิ่งของในกระโปรงหลังแล้ว โ จรอาจใช้วิธีพับเบาะเข้าไปหยิบสิ่งของในรถได้อีกต่างหาก ดังนั้นจึงควรเช็คให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนออกจากรถ