หนุ่ ม 20 ฟุบคาชั กโครก ทำหมอช็อ กตามไปด้วย
หนุ่ ม 20 ฟุบคาชั กโครก ทำหมอช็อ กตามไปด้วย
เมื่อวันที่ 12 ส.ค.63 เวลา 19.00 น. พ.ต.ท.อาคม โฉมศรี สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า มีคนเสียชีวิ ตในห้องน้ำ บ้านเลขที่ 364/2 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานแพทย์เวรโรงพย าบาลพหลพลพยุหเสนา ร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบและพลิกศ พ
ในบ้านเกิ ดเหตุพบภายในห้องน้ำของบ้านหลังดังกล่าว พบร่า ง นายรเมศ จันทะโก อายุ 20 ปี นั่งอยู่บนโถส้วม สภาพไม่สวมเสื้อ กางเกงถูกถอดลงไปอยู่ที่ปลายเท้า ศีรษะพิงติดอยู่กับกำแพงห้องน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ทำการตรวจสอบชีพจรเบื้องต้น ไม่พบชีพจร จึงนำร่า งออกมาจากห้องน้ำ ให้แพทย์ทำการชันสูตร แพทย์ทำการตรวจสอบชีพจรก็ไม่พบชีพจร และไม่พบบาดแผลตามร่า งกาย จึงเตรียมเจ้าหน้าที่ห่อร่า งไปชันสูตรอย่ างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิ ตที่แน่ชัด
แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังใช้ผ้าห่อร่า งของนายรเมศ ทาง พ.ต.ท.อาคม และแพทย์จาก รพ.พหลฯ กลับสังเกตเห็นว่า นายรเมศได้ลืมตาขึ้นและเริ่มกลับมาหายใจอีกครั้ง จึงทำการตรวจสอบอีกครั้ง พบว่ากลับมามีชีพจร จึงให้เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพย าบาลอย่ างเร่งด่ว น ล่าสุด นายรเมศ อาการปลอดภัยแล้ว
หลังรอดชีวิต นายรเมศ เด็กหนุ่มที่ฟื้นขึ้นมาจากความตา ย ได้เปิดเผยเรื่อ งที่เกิ ดขึ้นว่า วันเกิ ดเหตุช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ตนกวาดบ้านชั้นบนเสร็จ ก็รู้สึกปว ดท้องจึงเดินมาเข้าห้องน้ำตามปกติ แต่เกิ ดอาการท้องผูกถ่ายไม่ออก จึงทำให้นั่งอยู่นานเกือบครึ่งชั่ วโมง จนรู้สึกอ่อนเพลียหมดแรงและหายใจไม่สะดวก จึงตั ดสินใจเอาหัวไปพิงกับกำแพงห้องน้ำเพื่อจะพักร่า งกายสักครู่
จากนั้นก็หมดสติจำอะไรไม่ได้เลย มาเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งตอนช่วง 5 โมงเย็น หลังจากได้ยินเสียงคนหลายคนตะโกนเอะอะโวยวายที่หน้าบ้าน แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถขยับร่า งกาย ลืมตาหรือพูดอะไรได้
“ตอนนั้นรับรู้ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ทั้งช่วงที่เจ้าหน้าที่พลิกตัวของไปมาและยกร่า งใส่ผ้าห่อศ พ ในใจคิดอย่างเดียวว่า ต้องทำอะไรสักอย่างเพราะไม่งั้นก็จะถูกยกใส่โลง และจะตา ยขึ้นมาจริง จริง ก็เลยรวบรวมสมาธิ และทำทุกวิถีทางให้ร่า งกายขยับให้ได้ เพื่อที่จะสื่อสารบอกเจ้าหน้าที่ว่า “ผมยังไม่ตา ย” แล้วจู่ จู่ ดว งตาก็กะพริบได้ และเป็นจังหวะเดียวกันพอดีที่เจ้าหน้าที่หันมาเห็น ก็เลยรอดปลอดภัย สามารถมีชีวิ ตได้อย่างปกติ”
นายรเมศ กล่าวด้วยว่า ตอนที่หลับไปนั้น ไม่ได้ฝัน หรือนิมิต หรือจิตหลุดไปที่ไหน ซึ่งเวลาที่หมดสติไปนั้นเหมือนคนนอนหลับปกติ และก็ไม่ได้ฝันอะไรเลย ตั้งแต่หลับไปจนมีเจ้าหน้าที่มาพบ
ด้าน นางสาวระติมา จันทะโก อาย 25 ปี พี่สาวนายรเมศ เล่าว่า นายรเมศเป็นคนร่า งกายไม่แข็งแรง และป่ว ยด้วยโร คลิ้นหัวใจรั่วตั้งแต่เด็ก วันที่เกิ ดเหตุ นายรเมศ อยู่คนเดียวที่บ้าน และที่ญาติว่านายรเมศหมดสติ เพราะว่าช่วงเช้า ป้าของนายรเมศได้นำกับข้าวมาแขวนไว้ที่รั้วหน้าบ้านให้นายรเมศกิน แต่เจ้าตัวไม่ยอมเปิดประตูออกมาหยิบกับข้าว กระทั่งเที่ยง นายรเมศก็ยังไม่เปิดบ้านมาหยิบกับข้าว ก็เลยเริ่มเอะใจ โทรศัพท์หานายรเมศ แต่ติดต่อไม่ได้ ไม่มีใครรับสาย ก็เลยกังวลว่า นายรเมศ จะเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะนายรเมศมีโร คประจำตัว และในอดีตเคยวูบหมดสติหลายครั้ง ทุกคนก็เลยรีบเดินทางมาดู กระทั่งมาถึงก็เห็นสภาพนายรเมศนั่งเสียชีวิ ต ตอนนั้นทุกคนคิดเหมือนกันว่า น้องไปสบายแล้ว แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังเก็บศ พอยู่ ญาติ ญาติ ได้ขอเจ้าหน้าที่ว่า อย่าเพิ่งนำร่า งน้องไป ให้รอพ่อแม่มาก่อน เพราะทุกคนอย ากเห็น อย ากกอดนายรเมศเป็นครั้งสุดท้าย และพอญาติ ญาติ พ่อแม่เดินทางมาถึง สักพักนายรเมศก็ฟื้นพอดี
แหล่งข้อมูล thairath