ใครยังมีแม่อยู่ ดูแลท่านให้ดี ก่อนที่ทุกอย่างจะเสียไป

ใครยังมีแม่อยู่ ดูแลท่านให้ดี ก่อนที่ทุกอย่างจะเสียไป

แม่นั้นเป็นผู้ให้กำเ นิ ดเรามา ทุกคนมีแม่ที่ดูแลเราจนเติบโตมาได้ดีจนทุกวันนี้ แต่จะมีสักกี่คนกันที่ยินดีจะดูแลแม่ของตนเองอย่างเต็มที่ และหลายคนเลือกบ้ า น พั ก ค น ช ร าเป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายให้ท่าน แย่กว่านั้นบางคนเลือกที่จะท อ ด ทิ้ งท่านเอาไว้บ้านโดนลำพังอย่างเดียวดายโดยไม่เคยคิดหันกลับไปดูแลเลย จนหลายคนตั้งมานั่งเสียใจภายหลังเมื่อวันที่ไม่มีแม่มาถึง อย่าให้ต้องเป็นแบบนั้นหากวันนี้คุณยังมีพ่อแม่อยู่ด้วย ดูแลท่านให้ดีเถอะ เป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่สุดในชีวิตมนุษย์แล้ว

เ รื่ อ งราวของแม่กับลูกวันนี้เรามีมาให้อ่ า นเพื่อเป็นข้ อ คิ ด เตือนสติ เตือนใจทุกคนที่ยังคงมีแม่อยู่ด้วย จะได้ไม่พลาดโอกาสที่จะใช้เวลาอยู่กับท่าน ได้ดูแลท่านอย่างที่ลูกคนหนึ่งพึงจะทำได้ เ รื่ อ งอาจจะย าวหน่อยนะแต่อย า กให้ทุกคนได้ลองอ่ า นดู เนื้อหามีดังนี้เลย

ในขณะที่ลูกสะใภ้กำลังป้อนข้าวแม่สามีอยู่นั้นลูกสะใภ้ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “ทำจืดแม่ก็ว่าไม่มีรสชาติ ตอนนี้ทำเค็มนิดหนึ่ง แม่ก็ว่ากินไม่ได้ แล้วจะเอายังไง” เมื่อแม่เห็นลูกชายกลับมา ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่กลืนข้าวเข้าปาก ลูกสะใภ้มองตามด้วยความไม่พอใจ เมื่อลูกชายลองชิมอาหารที่แม่กำลังกิน ก็พูดกับภรรย าว่า “ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าแม่กินเค็มมากไม่ได้”

ลูกสะใภ้กล่าวด้วยความโ ม โ ห “เอาละ ในเมื่อเป็นแม่ของคุณ วันหลังคุณก็ทำเองก็แล้วกัน” แล้วก็สะบัดหน้าเดินเข้าห้องไปลูกชายรู้สึกลำ บ า ก ใจ จึงหันมาพูดกับแม่ว่า… “แม่ครับ ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวผมต้มบะหมี่ให้แม่กินนะครับ” แม่เห็นอาการกังวลของลูกชายจึงพูดขึ้นว่า “ลูกมีอะไรจะพูดกับแม่ไหม? ถ้ามีก็บอกแม่เถอะ อย่าเก็บไว้เลย” ลูกชายกล่าวขึ้น “แม่ครับ เดือนหน้าผมได้เลื่อนตำแหน่ง เกรงว่า จะต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เมียผมก็อย า กออกไปทำงาน คือว่า ”แม่รู้ทันทีว่าลูกชายจะพูดอะไรต่อ… “อย่าส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรานะลูก ” แม่พูดออกมาอย่างอ้อนวอน

ลูกชายนิ่งคิดไปนาน แต่ก็พย าย ามหาทางออกที่ดีกว่านี้ “แม่ครับ อยู่บ้านพักคนชราก็ดีนะแม่จะได้ไม่เหงา ที่นั่นมีคนดูแล ดีกว่าอยู่ที่บ้านนะครับ หากเมียผมไปทำงาน เธอจะไม่มีเวลาดูแลแม่เลยนะครับ” เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาทำบะหมี่ให้แม่ และนั่งทานบะหมี่กับแม่ จากนั้นก็เข้าไปที่ห้องหนังสือ เขายืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง ในใจเกิດความสับสน ไม่รู้จะ ตั ดสินใจอย่างไรดี

แม่ของเขาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่ยังสาว ท นลำ บ า กเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ อีกทั้งส่งเสียให้เรียนยังต่างประเทศ แต่แม่ไม่ได้อ้างสิ่งที่ทำไปเป็นเบี้ยต่อรองให้เขาต้องเลี้ยงดู กลับกันภรรย าผู้มาทีหลังกลับเรียกร้องให้เขาต้องรับผิดชอบ นี่เขาต้องส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชราจริงหรือ “คนที่จะอยู่กับแกในช่วงบั้นปลายชีวิตคือเมียนะโว้ย ไม่ใช่แม่” เพื่อน มักจะเตือนเขาอ ย่า ง นี้ “แม่ของเธออายุมากแล้วนะ หากโชคดีก็อยู่กับแกได้อีกหลายปี ทำไมไม่อาศัยเวลาที่เหลือของแม่แล้วก็กตัญญูปรนนิบัติท่านละ อย่ารอให้อย า กกตัญญูแต่แม่ไม่อยู่แล้ว แล้วแกจะเสียใจ” ญาติมักจะเตือนเขาว่าอ ย่า ง นี้

เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อ กลัวว่าตนเองจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจ ณ บ้านพั ก ค น ช ร าที่แสนจะหรูหรานอกชานเมือง เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดต่อแม่ของเขา

อย่างน้อยที่นี่ก็สะดวกสบาย เมื่อเขาพยุงแม่เข้าสู่ตัวอาคาร ทีวีจอ ยั ก ษ์ กำลังฉายภาพยนตร์ตลกอยู่ แต่ไม่มีเสียงหัวเราะจากผู้ชมแม้แต่คนเดียว ค น ช ร าจำนวนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อผ้า

เหมือนกัน นั่งอยู่บนโซฟานั่งมองประตูทางเข้าด้วยส า ย ต า อันเหม่อลอย หญิง ช ร า คนหนึ่งกำลังก้มตัวลงไปเก็บขนม ที่

ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมา เขารู้ว่า แม่ชอบห้องที่สว่างโล่ง จึงเลือกห้องที่แสงพระอาทิตย์สามารถสาดส่องเข้ามาได้ เมื่อมองออก

ไปนอกหน้าต่าง ใบไม้กำลังร่วงลงสู่พื้นหญ้าเป็นจำนวนมาก มีเจ้าหน้าที่หลายคนกำลังเข็นรถเข็นที่มีคน ช ร า นั่ ง อยู่ออกไปชมพระอาทิตย์ตกดิน รอบตัวเงียบสงัด ทำให้เขาสะท้านวาบในจิตใจ

แม้แสงพระอาทิตย์ย ามลับขอบฟ้าจะงดงามสักเพียงใด นั่นก็

หมายความว่า ความมืดย ามค่ำคืนกำลังจะย่างกราย เข้ามาแทนที่ เขาถอนหายใจเบา “แม่ครับ ผมต้องไปแล้วนะ” ผู้เป็นแม่ทำได้เพียง พยักหน้า แต่ในแววตากลับดู เ ศ ร้ า ส ร้ อ ย

เหลือเกิน ตอนที่เขาเดินจากมา แม่ยังคงโบกมือลาด้วยสีหน้า

ไม่สู้ดีนัก อ้าปากพูดโดยไม่มีเสียงอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาหันมามอง จึงเห็นผมสีขาวของแม่ เขานึกในใจ “แม่แก่แล้วจริง”

อยู่ ภาพในครั้งอดีตก็ผุดขึ้นในห้วงแห่งความคิด ปีนั้นเขาอายุได้เพียง 6ขวบ แม่มีธุระต้องไปต่างจังหวัด จึงต้องพาเขาไป

ฝากไว้ที่บ้านคุณลุง ตอนที่แม่จะออกจากบ้านไป เขารู้สึก ก ลั ว มาก เอาแต่กอดขาแม่ไม่ยอมให้แม่ไป “แม่จ๋าอย่าไปนะ…”

สุดท้าย แม่ก็ไม่กล้าทิ้งเขาไปต่างจังหวัด เขารีบก้าวเท้าเดินออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เมื่อปิดประตูแล้วก็ไม่กล้าหันไปมองแม่อีก เมื่อกลับถึงบ้าน เขาเห็นภรรย ากำลังเก็บเอาข้าวของ

ของแม่ โยนออกมานอกห้อง ถ้วยรางวัลรูปคนยืนสูงประมาณ

3 ฟุตที่เขา ชนะเลิศประกวดเรียงความ “แม่ของฉัน” พจนานุกรมแปลภาษาที่แม่ซื้อให้เขาในวันเกิດ ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นแรกที่เขาได้รับจากแม่ ยังมีย า ห ม่ อ ง น้ำที่แม่ต้องทาขาก่อนนอนทุกวันฯ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกคุณโยนของ แม่ผมออกมาทำไม?” เขาถามออกไปด้วยความไม่พอใจ

“ขยะทั้งนั้น ถ้าไม่ทิ้ง แล้วฉันจะเอาของ ฉันวางไว้ตรงไหน? ” ภรรย าพูดอย่ างไม่สบอารมณ์

“คุณรีบเอาเตียงเก่าของแม่คุณไปทิ้งได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะซื้อเตียงใหม่มาไว้แทน ” รูปเก่า สมัยเขายังเด็กกองอยู่กับพื้น มันเป็นรูปที่แม่พาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนสนุก

“นั่นมันเป็นสมบัติของแม่ผม ใครก็เอาไปทิ้งไม่ได้” “มันจะมากเกินไปแล้วนะ มาทำเสียงดังกับฉันได้ยังไง ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้” “ผมเลือกรักและแต่งงานกับคุณ คุณเข้ามาอยู่บ้านผม คุณเลือกรักผม ทำไมคุณรักแม่ผมด้วยไม่ได้? ”

ท้องฟ้าอันมืดมิดหลังฝนตก บรรย ากาศหนาวสะท้านไปทั่ว ท้องถนนที่ว่างเปล่าไร้รถรา รถหรูคันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าราวกับอยู่ในสนามแข่ง พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของชายคนหนึ่งซึ่งมุ่งไปทางบ้าน พั ก ค น ช ร า นอกเมืองจอดรถเสร็จ เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องพักของแม่ เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขายืนมองแม่ด้วยความรู้สึก ที่ไม่น่าให้อภัยตัวเอง เขาเห็นแม่ของเขาก้มหน้าใช้มือนวดที่ขาของตัวเอง

เมื่อแม่ของเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู ก็เห็นลูกชายของตัวเองยืนอยู่และในมือถือย า ห ม่ อง น้ำ อยู่ และก็พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “แม่ลืมเอามาด้วย ดีนะที่ลูกเอามาให้” เขาเดินไปหาแม่และ คุ ก เข่าลงไป “ดึกแล้วลูก แม่ทาเองได้ พรุ่งนี้ลูกต้องไปทำงานแต่เช้า กลับไปเถอะ” เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ “แม่ครับ ผมขอโทษ แม่ยกโทษให้ผมนะ กลับบ้านเราเถอะ” ลูกรัก ตอนที่เจ้ายังเด็ก แม่ใช้เวลาทั้งหมดค่อยสอนให้เจ้าใช้ช้อนใช้ตะเกียบคีบอาหาร สอนเจ้าใส่รองเท้า สอนเจ้าแต่งตัว อาบน้ำให้ สิ่งเหล่านี้แม่ไม่เคยลืม

หากวันหนึ่ง แม่จำไม่ได้ หรือเริ่มพูดช้าลง ขอเวลาให้แม่สักหน่อยรอแม่ได้ไหมให้แม่ได้คิดบางครั้งสิ่งที่แม่อย า กจะพูดกับเจ้า แม่อาจจะพูดกับเจ้าไม่ได้อีกแล้ว ลูกรัก ลูกจำได้ไหม แม่ต้องสอนเจ้ากี่ร้อยครั้งให้เจ้าพูดว่าคำว่าแม่ได้แม่ดีใจมาก ไหนที่เจ้าเริ่มพูดเป็นประโยคได้? แม่ต้องตอบคำถามของเจ้ากี่ร้อยครั้ง กว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้าสงสัย

ดังนั้น หากวันหนึ่ง แม่ถามเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกกับเ รื่ อ งเดิม ขอให้เจ้าอย่ารำคาญจะได้ไหม…? ตอนนี้แม่อาจติดกระดุมเสื้อไม่ได้ ตอนกินข้าวอาจหกเลอะเสื้อผ้า เจ้าไม่ต้องโมโหได้ไหม…?

ขอให้เจ้าอดทนและอ่อนโยนกับแม่ ขอเพียงเจ้าอยู่ข้างแม่ แม่ก็รู้สึกอุ่นใจลูกรัก วันนี้ขาของแม่เริ่มอ่อนแรง ยืนได้ไม่ค่อยนาน เดินเหินลำบาก ขอให้ลูกจับมือและพยุงแม่ไว้เดินเป็นเพื่อนแม่จนวันที่แม่หมดลมหายใจ เหมือนวันที่เจ้าหัดเดิน แม่ก็พยุงเจ้าเดินอ ย่า ง นี้เหมือนกัน

เมื่อคุณได้อ่ า นเ รื่ อ งนี้จบแล้วเชื่อเหลือเกินว่า ทุกคนที่รักแม่จะคิดได้ เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนจะสนใจแม่มากขึ้น และอย่าลืมว่าหากคุณแต่งงานมีคู่ครองคุณเองก็จะต้องรักแม่ของคนรักของคุณด้วยเหมือนกัน เ รื่ อ งราวนี้เป็นของผู้ใช้เฟสบุ๊ค Peerapong Sripaoraya ต้องขอบคุณอย่างมากที่ได้นำเอาเ รื่ อ งราวข้ อ คิ ด นี้มาให้ทุกคนได้อ่ า นกัน และหวังอย่างยิ่งว่าหลาย คนคงจะไม่พลาดโอกาสที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับแม่และดูแลท่านให้ดีที่สุด

Cr.ขอขอบคุณข้อมูลจาก Peerapong Sripaoraya

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า