ถูกยึดรถ ไ ม่ใช่ทุกกรณีที่ต้องจ่ายเงินไ ฟแนนซ์
ถูกยึดรถ ไ ม่ใช่ทุกกรณีที่ต้องจ่ายเงินไ ฟแนนซ์
การคืนรถให้ไ ฟแนนซ์ เมื่อผ่อนรถต่อไปไ ม่ไหว ไ ม่สามารถแบกรับภาระค่างวด ค่าผ่อนรถได้ หรือการ คืนรถให้ไ ฟแนนซ์ ซึ่งนับเป็นทางออกที่ดีกว่าปล่อยให้รถถูกยึดหรือถูกฟ้องร้อง แล้วค่อยผ่อนชำระให้ครบจำนวนทุกงวดพร้อมกับดอกเบี้ ยตามที่ระบุในสัญญา
ล่าสุดทนายพี พัชรพล เผ ยการคืนรถ หรือ ถูกยึดรถ ไ ม่ใช่ทุกกรณีที่ต้องเสี ยเงินให้กับไ ฟแนนซ์ เล่าว่า จากการที่ไ ฟแนนซ์นำรถไปขายต่อให้คนอื่นแล้วขาดทุนผมคิดว่าน่าจะมีคนถูกฟ้องค ดีลักษณะนี้เป็นหลักหมื่นคนเลยครับ แต่ไ ม่ได้ยื่นคำให้การสู้ค ดี กฎหมายในเรื่องนี้ทนายทุกท่านจะทราบดีครับว่าเราสามารถต่อสู้ได้ ไ ม่ต้องเสี ยค่าส่วนต่าง อย่างที่ไ ฟแนนซ์ฟ้องค ดีมา
วันนี้ฟังคำตัดสิน ณ ศาลจังหวัดราชบุรีกรณีไ ฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง 324,885 บาทผมได้ยื่นคำให้การสู้ค ดี ว่า “ไ ฟแนนซ์ ยึดรถก่อนครบกำหนด 30 วัน ตามหนังสือบอกเลิกสัญญา สัญญาเลิกกันแล้ว”
ศาลตัดสินว่า “เป็นการสมัครใ จเลิกสัญญาโดยปริย าย” จำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อ จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันไ ม่ต้องรับผิ ดใช้ค่าขาดราคา และ ค่าเสี ยหายอันเกิดจากการใช้จ่ายในการขายทอดตลาดรถ (ค่าส่วนต่าง) พิพากษาให้ จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าขาดประโยชน์ 8,300 บาท พร้อมดอกเบี้ ย ข้อเท็จจริงในค ดีนี้ ทางผู้เช่าซื้อ ได้นำรถ ไปคืนด้วยตัวเองที่บริษัท ในขณะที่ยังไ ม่ครบระยะเวลา 30 วันตามหนังสือบอกเลิกสัญญาแม้ในวันที่คืนรถทางผู้เช่าซื้อจะเซ็นหนังสือยินยอมคืนรถ และ ระบุว่ายินยอมชดใช้ค่าส่วนต่างในภายหลัง
การเซ็นชื่อยินยอมคืนรถ และระบุว่ายินยอมชดใช้ค่าส่วนต่าง ( ใบคืนรถจะมีข้อความดังกล่าวระบุไว้ครับว่าถ้าคืนรถ คนที่คืนยินดีจะชดใช้ค่าส่วนต่างหลังจากคืนรถ แต่ในค ดีนี้การคืนรถเป็นการคืนก่อน ถูกบอกเลิกสัญญา แม้จะ เซ็นยอมรับว่าจะใช้ค่าส่วนต่างก็ไ ม่มีผลตามกฎหมายครับไ ฟแนนซ์จะสู้ค ดีในเรื่องนี้ไ ม่ได้เนื่องจากว่าการคืนรถในระยะเวลาก่อนครบ 30 วันเป็นการสมัครใ จเลิกสัญญาโดยปริย ายทางไ ฟแนนซ์ไ ม่มีสิทธิ์เรียกค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาด) แต่เราต้องยื่นคำให้การสู้คดีเท่านั้นนะครับ
ถ้าเกิดไ ฟแนนซ์ฟ้องค ดีขึ้นมา ถ้าสมมติในค ดีนี้เมื่อวันที่ 7 กันย ายน ไ ม่ได้ยื่นคำให้การ ศาลก็จะตัดสินให้ จ่ายค่าส่วนต่างเป็นหลักแสนและลดดอกเ บี้ย ให้น้อยลงกว่าที่ไ ฟแนนซ์ฟ้องเท่านั้นครับ
หรือถ้ายอมทำสัญญาผ่อน (สัญญาประนีประนอมยอมความ ) กับทางทนายไ ฟแนนซ์ เขาก็จะให้ผ่อนจ่ายในยอดที่เป็นหลักแสนครับ เชื่ อว่ายังมีอีกหลายท่านที่โดนฟ้องค ดีเรียกค่าส่วนต่าง แล้วคืนรถไปก่อนครบระยะเวลาตามกฎหมาย เมื่อไ ม่ได้สู้ค ดีจากที่ต้องเสี ย ไ ม่ถึงหลักหมื่น กลับต้องมาต้องเสี ยเป็นหลักแสน สุดท้ายถูกยึดทรัพย์สิน แล้วก็แก้ไขไ ม่ทันแล้ว
ดังนั้นเมื่อกำลังถูกฟ้อง เรียกค่าส่วนต่าง ควรปรึกษาทนายความครับ เพราะอาจจะมีประเด็นที่จะต่อสู้ได้ติดตามคำพิพากษาฉบับเต็มได้เร็วๆ นี้ครับ
“ค่าว่าความ” ผมขอเล่าให้ฟังแบบนี้ครับว่าเขาคิดกันแบบไหน ดูจากระยะทางในการขึ้นศาลเป็นหลักครับ
คืนรถหรือถูกยึดรถ ไ ม่ใช่ทุกกรณีที่ต้องจ่ายเงินไ ฟแนนซ์
ยกตัวอย่างเช่น ค ดีนี้ผมอยู่ราชบุรีจำเลยอยู่ราชบุรีขึ้นศาลจังหวัดราชบุรี ผมก็คิดค่าใช้จ่ายเป็นค่าเตรียมเอกสา รกับค่าเดินทางนิดหน่อยครับ เพราะว่าไ ม่ได้เดินทางไกล ดังนั้นใครก็ตามถูกฟ้องค ดีที่ศาลจังหวัดจังหวัดไหนหรือศาลแขวงที่จังหวัดไหน แนะนำว่าติดต่อทนายในพื้นที่ดีที่สุดครับเพราะทนายเดินทางขึ้นศาลสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย
จากประสบการณ์ที่ผมเคยได้ยินจาก ท่านอื่นๆ นะครับค่าทนายจะอยู่ประมาณ 10,000 ถึง 20,000 บาท อันนี้โดยประมาณนะครับ ปรึกษาทักแชตได้เลยครับทักแชตดีกว่านะครับถ้าคอมเม้นต์ใต้โพสต์นี้ผมอาจจะเห็นไ ม่ครบ
สรุปว่า ไ ฟแนนซ์มายึดรถเองก่อนครบระยะเวลา 30 วันตามหนังสือบอกเลิกสัญญา หากไ ฟแนนซ์ฟ้องมา ยื่นคำให้การสู้ค ดีแบบเดียวกับ กรณีนี้เลยครับ ผลลัพธ์คือไ ม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่าง
ขอขอบคุณที่มา : ทนายพี พัชรพล