คนใช้รถต้ อ งรู้ไว้ วิธีเ อ าตัวรอด เมื่อคันเร่งค้ า ง
คนใช้รถต้ อ งรู้ไว้ วิธีเ อ าตัวรอด เมื่อคันเร่งค้ า ง
การขับรถบนท้องถนนเป็นเ รื่ อ งที่เราต้องมีความระมัดร ะวังรอบด้าน ทั้งการขับให้ถูกหลักจราจรและยังต้องร ะวังไม่ให้เกิ ดอุบั ติ เหตุ เฉี่ ย วชนรถคันอื่น การ
ขับรถนั้นจึงต้องมีสติอยู่เสมอ วันนี้เรามีข้อมูลดีที่เกี่ยวกับ อุ บั ติเหตุที่อาจเกิ ดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ก็ได้นั่นก็คือ คันเร่งค้าง ซึ่งหากเราไม่ทันได้ร ะวังและตกใจ
หลายคนอาจรีบดับเครื่องซึ่งเป็นเ รื่ อ งที่อั น ต ร า ยมากทีเดียว แต่ควรแก้ปัญหา อย่ า งไรเมื่อเกิ ดอาการคันเร่งค้างขึ้นมา วันนี้เราไปดูวิธีจัดการกับปัญหานี้กัน
สาเ ห ตุของอาการคันเร่งค้าง อาจเกิ ดได้หลายสาเหตุ เช่น
1. อาจเป็นเพราะการที่คันเร่งติดอยู่กับพรมย า งที่พื้นทำให้ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ หรืออาจเกิ ดจากย า งรองพื้นรถที่หนาเกินไป
2. ระบบไฟฟ้าของระบบคันเร่งเกิ ดทำงานผิดปกติ ทำให้รถเร่งเครื่องเองแม้ว่าเราจะไม่ได้เหยียบก็ตาม
3. อาการคันเร่งหนืด
เราจะรู้ได้อ ย่ า งไรว่าคันเร่งของเราค้าง เมื่อเราเหยียบคันเร่งแล้วรู้สึกได้ว่าคันเร่งจมลงไปกับพื้นแบบไม่ยอมคืนตัวกลับมา หรือ คนขับจะรู้สึกได้ว่า คันเร่งลื่นหรือเบาผิดปกติ ทั้งสองอาการนี้คือสัญญาณของ คันเร่งค้าง
คันเร่งค้าง
วิธีการเอาตัวรอดเมื่อคันเร่งค้าง
1. ห้ามดับเครื่องเ ด็ ดข า ด เพราะจะทำให้พวงมาลัยรถล็อค จนไม่สามารถ
บังคับทิศทางรถได้ แต่ให้เราเปลี่ยนเกียร์ไปที่เกียร์ว่าง แล้วค่อยประคองรถเข้าข้างทางช้า ในขณะที่เราเปลี่ยนเกียร์ไปที่ตัว N อาจมีเสียงรอบเครื่องดังขึ้น ไม่ต้องตกใจให้ค่อยประคองรถต่อไป
2. เมื่อเข้าเกียร์ N เพื่อชะลอความเร็วรถได้แล้วให้ค่อยเหยียบเบรก ซึ่งก่อนจะ
เบรกให้สังเกตรถด้านหลังให้ดี รวมทั้งผู้โดยส ารที่นั่งมากับเราด้วย ไม่ควรเบรกรถอย่ างกระทันหันเพราะอาจทำให้ตัวเองหรือผู้อื่นได้รับบ า ดเ จ็ บได้
หากเกิ ดอาการคันเร่งค้างขึ้น สิ่งที่ควรทำ คือ
1. ตั้งสติ
2. อ ย่ าดับเครื่อง ห้ามดึงกุญแจรถออกจากรถเ ด็ ดข า ด
3. เข้าเกียร์ว่าง ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาให้เหยียบครัทช์ก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่าง
4. ค่อยเบรกรถโดยใส่ใจกับความปลอ ดภั ย มาก่อนเป็นอันดับแรก