กฎแห่ง ก ร ร ม 3 ชาติ ได้บันทึกไว้
กฎแห่ง ก ร ร มของพ่อ แม่และลูก พร้อมเผยเส้นทางการเปลี่ยนคู่ก ร ร ม เป็นคู่บุญ
กฎแห่ง ก ร ร ม 3 ชาติ ได้บันทึกไว้ว่า
“สามีภรรย า” มีกร ร มร่วมกันมา ไม่ว่าจะก ร รมดี หรือกร ร มชั่ว ถ้าไม่มีก ร ร ม ร่วมกันมา ก็ไม่อาจอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันได้ “บุตรธิดา” คือ หนี้ ไม่ว่าจะเป็นทวงหนี้ หรือชดใช้หนี้ ไม่มีหนี้ ไม่มาเกิดเป็น พ่อ แม่ ลูกกัน”
ดังนั้นสามีภรรย า ที่มีก ร ร มดีร่วมกันมา ย่อมสมานสามัคคี รักใคร่กลมเกลียว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ส่วนสามีภรรย า ที่มีก รร ม ชั่ ว ร่วมกัน มาแต่อดีตชาติ ย่อม ทะเลาะเบาะแว้ง บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่อาจอยู่ร่วมกัน จนวัน ต า ย
ส่วน “บุตรธิดา” ที่มาทวงหนี้ เป็นลูกที่ไม่เอาไหน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจไม่ วายเว้น “บุตรธิดา” ที่มาใช้หนี้ จะสำรวมระวัง รู้คุณทดแทนคุณ ไม่กล้า ทำให้พ่อแม่ ชอกช้ำใจ
ชาวโลกทุกคน เกิดมาต่างหนีไม่พ้น พบ พราก สุข ทุ กข์ เศร้า อภัย แค้น รัก ชัง นี่คือผลแห่งของ ก ร รม ปลูกเหตุเช่นไร ย่อมได้ลิ้มผลเช่นนั้น ไม่ว่าจะเหตุใด หรือ ผลใด ล้วนหนีไม่พ้น กฏแห่งก ร ร มทั้งสิ้น
๑. มาแทนคุณ ด้วยบุญในอดีต ที่ได้สั่งสมร่วมกันมา ด้วยพระคุณที่มีต่อกัน จึงได้มาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกหลานกัน เราเรียกบุตรธิดาเหล่านี้ว่า “ลูกกตัญญู” เขามาเพื่อที่จะทดแทนคุณ เป็นเด็กดี ฉลาด เชื่อฟัง เขาเหล่านี้ไม่มีทาง จะทำอะไรเสียหาย ให้พ่อแม่ต้องกลัดกลุ้มกังวลใจ
๒. มาล้าง แ ค้น ด้วยก ร ร มในอดีต ที่ได้สร้างร่วมกันมา จึงได้มาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกหลานกัน เมื่อเติบใหญ่ก็จะกลายเป็นลูกล้างผลาญ ทำให้ครอบครัวล่มสลาย เราเรียกบุตรธิดาเหล่านี้ว่า “ลูกท ร พี” เขามาล้าง แ ค้ น ดังนั้น อย่าได้ผูก เ ว ร ไว้กับเขา เจ้า ก ร ร ม นายเวรที่อยู่ภายนอก ยังพอป้องกันได้ แต่นี่เกิดมาเป็นลูกหลานในบ้านใน ตระกูลแล้ว จะทำอย่างไรดี ดังนั้น อย่าทำ ร้ า ย ใคร อย่าฆ่ า แกงกัน เพราะต่างคนต่างก็รักตัวกลัว ต า ย เช่นกัน
๓. มาทวงหนี้ ชาติก่อนหนหลัง พ่อแม่เป็นหนี้ไว้ ไม่ได้ชดใช้คืน หนี้ที่ว่าคือ หนี้เงิน ไม่ใช่หนี้ชีวิต เขาจึงเกิดมาเพื่อทวงหนี้คืน หากเป็นหนี้กันน้อย เกิดมาให้ดูแลปีสองปีเขาก็ ต า ย เราเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ เมื่อใช้หมด เขาก็ไป ต่อให้คุณรักเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยใส่ใจคุณ หากเป็นหนี้เขาเยอะ เลี้ยงจนเติบใหญ่ จบมหาวิทย าลัย เรียนจบวันนั้น ก็ ต า ย วันนั้น เขาไม่อยู่รับใช้เรา เพราะมาทวงหนี้ หนี้หมดก็จากไป หากเป็นหนี้พ่อแม่น้อย ก็เลี้ยงดูตามอัตภาพเหมือนที่เราเคยพบเห็น เลี้ยงพ่อแม่ประหนึ่งคนรับใช้ในบ้าน เพราะอะไร เพราะมาใช้หนี้ ก ร ร ม ลูกประเภทนี้ แม้จะเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ก็หล่อเลี้ยงแค่กาย ไม่หล่อเลี้ยงจิตใจ เลี้ยงดูโดยปราศจากความเคารพ และความกตัญญู
ซึ่งต่างจากบุตรที่เกิดมา เพื่อทดแทนคุณ ประเภทนี้ไม่เพียงแต่หล่อเลี้ยงกาย ยังหล่อเลี้ยง จิตใจบุพการีด้วย หลัก ธ ร ร ม ในข้อนี้ มิใช่เพียงแค่ลูกหลาน ยังรวมทั้งญาติพี่น้อง และคนรอบข้าง ทั้งหลาย ที่เราได้รู้จัก และเคยได้อยู่ร่วมกันมา หากแต่เป็นเพราะ ก ร ร ม ที่ก่อกันมา หนักหนา หรือ เบาบาง หากบุญคุณ ความ แ ค้ น หนักหนา ก็เกิดมาเป็นสามีภรรย า และลูกหลานพี่น้อง หากบุญคุณ และความแค้นเบาบาง ก็เกิดมาเป็นญาติสนิทมิตรสหาย คุณเดินซื้อของในตลาด อยู่ๆคนแปลกหน้า ก็มายิ้มให้คุณและ คุณก็ยิ้มตอบ ล้วนเป็นบุญ ก ร ร ม แต่ชาติปางก่อน แต่ถ้าคุณรู้สึก ขัดหูขัดตา แถมไม่พอใจ ยังทะมึงตา ใส่ฝ่ายตรงข้ามอีก นี่ก็ล้วนเป็นบุญ ก ร ร ม แต่ชาติปางก่อนเมื่อเข้าใจในกฏแห่ง ก ร ร ม เหล่านี้ เราจะได้ไม่ผูก ก ร ร มด้ านดำเพิ่ม แต่จงผูก ก ร ร ม ด้านขาวซึ่งเป็นกรรมดีจะดีกว่า
๔. มาใช้หนี้ชาติก่อนหนหลัง เขาเป็นหนี้พ่อแม่ไว้ ไม่ได้ชดใช้คืน เมื่อเขาเกิดมาในชาตินี้ จึงต้องทำงาน หาเงิน เหน็ดเหนื่อย เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ก็อยู่ที่ว่า เป็นหนี้พ่อแม่มาก น้อยเพียงใด หากเป็นหนี้มาก ก็ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ เป็นอย่างดี
แล้วจะแก้ไขอย่างไร หากเราและลูกหลานผูกก ร ร มที่ ไม่ดีต่อกันมา แต่ปางก่อนแล้ว?
คำตอบก็คือ นำพาลูกหลานเข้าวัด หมั่นบำเพ็ญปฏิบัติธรรม ศึกษาพระ ธ ร ร ม เมื่อต่างฝ่ายต่างศึกษา ธ ร รม ย่อมแปรกรรมร้าย ให้กลายเป็นกร ร มดีได้ ย่อมคลายความจองจำ คับแค้นให้สลายคลายลงได้ เช่นนี้ที่เราเรียกว่า “เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต เปลี่ยน ร้ า ย กลายเป็นดี”
ขออนุโมทนาคู่กรรมทุกท่าน ที่จะเปลี่ยนเป็นคู่บุญ นำพาแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต
ขอเจริญพรเนื้อหาจาก : facebook.com/Kanlayanatam
กราบขอบพระคุณ Watnongbua Thamai