จงทำชีวิตดั่ง ผ้าขี้ริ้ว (อ่านแล้ว ใจเป็นสุข)
จงทำชีวิต…ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว อ่านแล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง
*** ผ้าขี้ริ้ว ยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด
คือการที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย ความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้มอยู่เบื้องหลังความ สำเร็จ
*** ผ้าขี้ริ้ว ดูดซับความสกปรกได้แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา
คือการที่รู้ตัวเองว่าสกปรกถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด
*** ผ้าขี้ริ้ว เป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด
คือการฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือ น้อยก็ตามเป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง
*** ผ้าขี้ริ้ว ถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้
คือการที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น
*** ผ้าขี้ริ้ว ไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร
คือการที่ยอมอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใดๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน
*** ผ้าขี้ริ้ว ยอมให้ถูกใช้งานในที่ ส ก ป ร กที่สุด
คือการที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการเหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคมดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตนและยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการ มากกว่าเข้าไปบริหาร
*** ผ้าขี้ริ้ว พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด
คือควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระ เป็นนายอินหรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคนทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น
*** ผ้าขี้ริ้ว ทนทานต่อการขัดถูซักล้าง ไม่เปราะบาง
คือมีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสร ร คปัญหา แม้จะเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ มอบประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคน. ทุ ก ข์ง่ายใจเบา แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน
*** ผ้าขี้ริ้ว แม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่
คือการที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกปรามาสสบประมาทจะต้องตั้งใจเอาชนะอุป ส ร ร ค ตรงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่ คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรก
เราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความ ทุ ก ข์ย ากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง
คุณเห็นด้วยไหมว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อนแล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง
ขอบคุณ fungtumpost.com
ที่มา : http://www.baanmaha.com/community/thread39471.html