แนวคิด คนใช้เงินเป็น เขาคิดกันแบบนี้ อ่ า นจบแล้วความคิดจ ะเปลี่ยนไป
แนวคิด คนใช้เงินเป็น เขาคิดกันแบบนี้ อ่ า นจบแล้วความคิดจ ะเปลี่ยนไป
คนใช้ เ งิ น เป็น เขาซื้อของแพง ๆ หลังจาก ร ว ย แล้ว คนใช้ เ งิ น ไม่เป็น ซื้อแต่ของแพงทั้งๆ ที่ยังไม่ ร ว ย
คนใช้ เ งิ น เป็น สร้างแต่กิจการ ไปตรงไหนก็มีสาขามีร้านตัวเอง หันไปทางไหน มีแต่รายได้
คนใช้ เ งิ น ไม่เป็น สร้างแต่หนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่เจ้าหนี้ รายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายมากกว่าเดิม
ผมเคยเป็นมาก่อนครับ ตั้งแต่ผมรู้ว่าควรใช้ เ งิ น ทำอะไร ตั้งแต่ผมฉลาดกว่า เ งิ น ผมก็สบาย
ถ้าอายุ 45-50 อยากนั่ง ทำงานงกๆ ให้คนอื่นชี้นิ้วสั่งงาน ก็ทำบ่อยๆ นะครับ
ผมเคยมี เ งิ น มากพอที่จะถอยรถในฝัน แต่ผมไม่ทำ คนที่จะจน คือ มี เ งิ น ปั๊บ ซื้อของที่ตัวเองอยากได้ก่อน
ไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองดูนะ ได้โบนัสมา 5 หมื่น กิน เที่ยว ซื้อนาฬิกาที่ชอบ 3 หมื่น แล้วไง.. กี่ปีแล้วที่ชีวิตเป็นแบบนี้ กี่ปีๆ ก็ตื่นไปให้คนอื่นชี้นิ้วใช้งาน
สิ้นปีมาก็เหมือนเดิมครับ อ้างอีกแล้วทำงานเหนื่อยมาทั้งปี ซื้อของดี ๆ ขอกินดี ๆ ให้รางวัลชีวิตตัวเองหน่อย
ปีนี้ได้โบนัสมากหน่อย 6 หมื่นซื้อโทรศัพท์ ใหม่ 25,000 พากันไปฉลอง 2 หมื่น เปลี่ยนแม็กรถอีก 18,000 ตังค์หมดพอดี
ทุก ๆ ปีทำแบบนี้ ผ่านไป 10 ปี นั่งกินเหล้ากับเพื่อน ต่างคนต่างถามกันเอง ทำไมพวกเราจนจังวะ ทำงานมาตั้งนานไม่ ร ว ย สักที
ทีนี้รู้หรือยัง ทำไมไม่ ร ว ย คุณไม่เคยเปิดใจ ไม่เคยเปิดตัวเองให้ได้รับโอกาส และที่สำคัญ นั่งรอแต่โอกาส ทำไมไม่สร้างโอกาสเอง งอมืองอเท้ารอคนอื่นทำไม
เมื่อก่อนผมก็เป็นครับ.. ทำงานเหนื่อยมาทั้งเดือน ผมขอให้รางวัลชีวิตบ้าง ดื่มเหล้ าแพงๆ ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ นั่งร้านอาหารดีๆ ยังไม่ถึงวันที่ 10 ของเดือนเลย เ งิ น เดือนหมดแล้ว
เ งิ น หมด กินมาม่าบ้าง ยืมเพื่อนบ้าง กู้เขามาไว้กินไว้ใช้บ้าง ไหนหล่ะกางเกงตัวละ 1,800 เอามารับประทานได้มั้ย รองเท้าคู่ละ 2,000 หั่นรับประทานให้อิ่มท้องหรือเปล่า รับประทานอาหารแพงๆ อิ่มทั้งเดือนหรือไง