สำคัญมาก 4 คุณสมบัติ ลงทะเบียนคนละครึ่ง ก่อนเปิดลงทะเบียนอีกรอบ

สำคัญมาก 4 คุณสมบัติ ลงทะเบียนคนละครึ่ง ก่อนเปิดลงทะเบียนอีกรอบ

ลงทะเบียนคนละครึ่ง “กระทรวงการคลัง” ย้ำ 4 คุณสมบัติสำคัญก่อนเปิดลงทะเบียนรอบ 2 วันที่ 11 พ.ย.นี้ เผยล่าสุดมีสิทธิคงเหลือรวม 2.3 ล้านสิทธิ

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 (11/11) ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ w ww.คนละครึ่ง.c om จนกว่าจะครบจำนวน

ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ผู้ที่สามารถลงทะเบียนได้จะต้องเป็นผู้ไ ม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน หรือ เป็นผู้เคยลงทะเบียนแต่ไ ม่สำเร็จ จึงถือเป็นผู้ที่ไ ม่เคยได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ ซึ่ง ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 มีสิทธิคงเหลือจากผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิและผู้ไม่เริ่มใช้สิทธิภายในกำหนด 14 วัน ที่จะนำมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นจำนวน 2.3 ล้านสิทธิ

รองโฆษกกระทรวงการคลัง ยังได้กล่าวเพิ่มเติม ถึงคุณสมบัติของผู้ที่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการว่า

-ต้องเป็นประชาชนสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน

-มีบัตรประจำตัวประชาชน

-ไ ม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แ ก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

-ต้องเป็นผู้ไ ม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน
โดยขอให้เตรียมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในวันที่ 11/11 ก่อนจำนวนสิทธิจะหมดลงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับสิทธิและใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไ ม่สามารถเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.57 แสนร้านค้า และผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7,352,274 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 10,155 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 5,178 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 4,977 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 214 บาทต่อครั้ง

โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แ ก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินส่วนที่รัฐร่วมจ่ายให้ร้านค้า ยังคงจ่ายทุกวันทำการถัดไป และเร่งพิจารณาแนวทางการจ่ายเงินทุกวัน เพื่อมิให้กระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการรายย่อย ที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ดี หากกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบพบการใช้จ่ายของร้านค้า หรือ ประชาชนที่ไ ม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชัน และระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที อีกทั้งผู้ที่มีส่วนในการสนับสนุนการกระทำความผิ ดจะมีโท ษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความพึงพอใ จต่อผลการดำเนินโครงการ “คนละครึ่ง” เป็นอย่างมาก เพราะได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งประชาชนและร้านค้า สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน เงินสะพัดในชุมชน เจ้าของร้านค้า หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันก็สะดวก

ความคืบหน้าล่าสุด ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.23 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์แล้วจำนวน 7.1 ล้านคน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 7,629 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 3,888 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 3,741 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 216 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แ ก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่

ทั้งนี้ ทางกระทรวงการคลัง จะเปิดให้มีการ ลงทะเบียนคนละครึ่ง รอบสอง ผ่านเว็บไซต์ ww w.คนละครึ่ง.c om ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. และในส่วนของการเพิ่มจำนวนร้านค้า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. ไปก่อนหน้านี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แ ก่ผู้ประกอบการรายย่อย เพราะมีจำนวนมากที่สนใจร่วมโครงการ แต่มีความกังวลเรื่องการทำธุรกร รมผ่านมือถือและวิธีการลงทะเบียน

อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ เร่งประชาสัมพันธ์โครงการและอำนวยความสะดวกในเรื่องการรับรองว่าเป็นร้านค้าจริง ตั้งเป้าอยากให้มี 1 ล้านร้านค้า จะได้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ที่ผ่านมา จำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นมาก จาก 3 แสนร้าน ช่วงปลายเดือน ตุลาคม เป็น 5.23 แสนร้านแล้ว และในจำนวนนี้เป็นหาบเร่แผงลอยมากกว่า 7 หมื่นราย

“สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกังวลก็คือ การฉว ยโอกาสจากโครงการคนละครึ่ง เช่น การคิดราคาสินค้าที่สูงขึ้นหรือการทำธุรกรร มที่ไ ม่มีการซื้อขายจริง รัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ อย่าให้มีการดำเนินการไปในทางมิชอบ ไ ม่ทำล ายบรรย ากาศของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง”

ทั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลตั้งใ จจริงให้โครงการนี้ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน และกระตุ้ นเศรษฐกิจฐานราก ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อ ย โดยใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและโปร่งใส ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ได้วางระบบการป้องกันการทุ จริ ตในกิจกรร มที่เกี่ยวกับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไว้แล้ว และจะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที หากพบการใช้จ่ายผิ ดเงื่อนไข และอาจมีการดำเนินการตามกฎหมายตามความผิ ดฐานฉ้ อโก ง

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า